ประกันอุบัติเหตุของลูก..ต้องมีมั๊ยเนี่ยย???

lack_of_supervision

อุบัติเหตุ เชื่อว่าทุกคน รับรู้และเข้าใจคำๆนี้ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือคนทั่วไป อุบัติเหตุเป็นสิ่งทีมักเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีใครคาดคิด ว่าจะเกิดขึ้นได้ ง่ายๆลองนั่งนึกดูว่าตั้งแต่ เกิดมาตัวเราเองผ่าน คำว่า ” อุบัติเหตุ ” ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ มาแล้วกี่ครั้ง บางคนก็ไม่บ่อย แต่บางคนนี่ถึงกับต้องชื่นชมว่า..ดวงแข็งจริงๆ

เพราะฉนั้น ในการเกิดอุบัติเหตุ ที่เกิดในผู้ใหญ่ที่มีสติรับรู้ว่าตัวเองทำอะไร ต้องต้องหลีกเลี่ยงหรือป้องกันอุบัติเหตุนั้นให้ไม่เกิดขึ้นหรือให้เกิดน้อยที่สุด เพื่อคุณภาพชีวิตของคนๆนั้น แต่ในเด็ก ที่การรับรู้ การป้อง ยังน้อยหรือแทบไม่มีเลย จึงเป็นส่วนสำคัญ ที่ผู้ใหญ่หรือพ่อแม่ ต้องมาดูแลให้ลูกๆอยู่ในสายตาตลอดเวลา แต่ก็ต้องยอมรับว่าบางครั้ง เราคิดว่าลูกคงไม่ซน คงไม่เดินออกไปข้างนอก คงไม่เล่นปลั๊กไฟ คงไม่ลงเดินไปอยู่ในน้ำ และ คงไม่อีกหลายๆอย่าง ….. ขอแต่อีกสักครั้ง แต่เราก็ยังต้องพบเจอกับ เด็กที่เข้า รพ. ด้วยอุบัติเหตุ ต่างๆเป็นประจำทุกๆวัน

child-road-accident-300x172

 

วันนี้จึงมาอธิบายเรื่องประกันอุบัติเหตุ ว่าจำเป็นไหมสำหรับลูกของเรา .. ตอบง่ายๆ ” จำเป็นมาก” ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชาย แค่วิ่งๆในบ้านแล้วล้ม ปากแตก ต้องเย็บ สถานการณ์ตรงนั้น คนเป็นพ่อแม่คงตกใจและต้องรีบพาลูกไป รพ.เพื่อใกล้ที่สุดและให้การรักษาที่เร็วที่สุด เพื่อลูกของเรา

ส่วนใหญ่ถ้าคิดถึงการรักษาที่เร็ว ส่วนมากก็คงต้อง ไปรพ.เอกชน ที่มีคิวให้รอน้อยกว่ารัฐบาล มีหมอตลอดเวลา ณ ตอนนั้นเราคงไม่ยังไม่คิดถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นว่าจะเท่าไหร่ ขอแค่ให้ลูกของเราหายเจ็บและถึงมือหมอให้เร็วที่สุดอย่างแรกเป็นแน่แท้ และเมื่อรักษาอย่างดีที่สุด ลูกเราดีขึ้น หายร้องไห้ ก็เป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ต้องให้กับ รพ.นั้นๆ เมื่อได้เห็นใบเสร็จค่ารักษาในปัจจุบัน ก็แทบจะพูดไม่ออก

ผู้เขียนขอยกตัวเรื่องจริงที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่าย มาให้เห็นเป็นตัวอย่าง เช่น ล้มปากแตก เย็บ 2 ที่ รวมค่ายาค่ามือหมอ .. 8000 บาท หรือ หัวแตก นอน รพ. 2 คืน .. 20000 บาท และยังมีค่าใช้จ่ายที่ตามมาหลังจากออก รพ.อีก เช่น ค่าล้างแผล ค่าตัดไหม ค่ากายภาพ ซึ่งบางครั้ง เราไม่สามารถคำนวนได้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จที่เท่าไหร่

child_in_a_and_e

ประกันอุบัติเหตุ จึงเป็นการโอนความเสี่ยงนั้นๆให้กับลูกหรือหลานของเรา อีกทางหนึ่ง ด้วยเบี้ยประกัน ไม่กี่ร้อยบาทในแต่ละเดือน แต่สามารถให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุ แต่ละครั้งที่เกิดขึ้นตามวงเงินนั้นๆ เช่น เบี้ยประกัน ปีละ 2000 บาท ค่ารักษาพยาบาล 20000 บาทในอุบัติเหตุแต่ละครั้ง ซึ่งเป็นการโอนความเสี่ยงที่จะเข้ารพ.ให้กับประกันแทนที่เราจะมาแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไว้เอง เวลาเกิดอุบัติเหตุกับลูกเราขึ้น

 

ประกันอุบัติเหตุ แต่ละบริษัทไม่ต่างกันมาก หลักๆที่ให้พ่อแม่พิจารณา คือ

– วงเงินของค่ารักษาพยาบาล ที่อยู่ในประกันอุบัติเหตุนั้น เพียงพอต่อ ค่ารักษาใน รพ.ที่คุณจะเลือกเข้าไหม

– การซื้อประกันอุบัติเหตุ นั้นๆต้องไม่กระทบการเงินของครอบครัวมากเกินไป

– ตัวแทนให้บริการที่ดีเสมอ เพราะต้องประสานงานเคลมกับบริษัทให้เราได้

head-injury-boy

 

หลายๆคนอาจสงสัยว่าประกันอุบัติเหตุและประกันสุขภาพ เวลาเข้าไปนอนใน รพ. ต่างกันอย่างไร

– ประกันอุบัติเหตุ ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นอาจไม่จำเป็นต้องนอน รพ. แค่รักษาเสร็จก็สามารถกลับบ้านได้ จึงไม่สามารถ เบิกในประกันสุขภาพที่ต้องนอน รพ. ได้

– เมื่อมีการรักษาต่อเนื่องของอุบัติเหตุครั้งนั้น เช่น ทำแผลหรือตัดไหม ก็สามารถใช้วงเงินในเล่มประกันอุบัติเหตุที่ใช้อยู่ได้ แต่ถ้าเป็นประกันสุขภาพ ที่ต้องนอน รพ. ก็ไม่สามารถเบิกในส่วนนี้ได้

 

ย้ำเตือน !! หลายๆคนยังคิดว่าลูกของเราไม่ซน หรืออยู่ในความดูแลของเราตลอดเวลา ในฐานะผู้เขียน อยู่ในวงการแพทย์ มาหลายปี บางครั้ง อุบัติเหตุที่เราไม่คิดเลยว่าจะเกิด ก็คร่าชีวิตเด็กคนนึงให้จากอ้อมอกของคนเป็นพ่อแม่ได้เลยเหมือนกัน

อุบัติเหตุ คือสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด ว่ามันจะเกิดขึ้น!!!

child-safety-288784

You may also like...