ชาวประมงที่ไร้เข็มทิศ

ลองจินตนาการดูสิครับ ว่าถ้าหากชาวประมงออกไปจับปลาในทะเล โดยที่ไม่มีเข็มทิศบอกทาง จะเป็นยังไง

ชีวิตของเราก็เช่นกัน หากเราไม่มีการวางแผนที่ดี ไม่ว่าจะเป็นด้านใดก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องเงินอย่างเดียว ก็คงยากที่เราจะไปได้ถึงจุดหมาย หรือกว่าจะถึง ก็คงใช้เวลานานพอดู

ถ้าพูดถึงเรื่องการวางแผนการเงิน หลายๆ คนอาจสงสัยว่า ทำไมต้องวางแผนการเงิน ด้วย พ่อแม่หรือที่โรงเรียนก็ไม่เคยพูดไม่เคยสอนเรื่องนี้เลย และหลายคนอาจจะบอกว่าแค่จะกินจะใช้ให้เดือนชนเดือนยังไม่พอเลย จะเอาที่ไหนไปวางแผนบางคนอาจคิดว่าทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องยุ่งยาก ก็แค่มีเงินเหลือเก็บ แล้วเอาเงินไปลงทุนตามความรู้ความถนัดของตัวเอง ก็น่าจะโอเคแล้วหรือบ้างอาจจะคิดว่าตอนนี้ก็มีเงินตั้งเยอะแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องวางแผนเลย กินใช้ยังไงก็ไม่หมด

ผมอยากจะบอกว่า ใช่ครับ คุณไม่จำเป็นต้องวางแผนการเงินเลยครับ ถ้าคุณไม่ได้ใส่ใจว่า “เป้าหมายในชีวิตของคุณ” สำคัญกับคุณแค่ไหน แต่ถ้าคุณคิดว่าเป้าหมายนั้นๆ สำคัญและต้องสำเร็จ ผมคิดว่าคุณคงต้อง “จำเป็น” ครับ

ไม่แปลกครับที่คุณอาจไม่เคยได้ยินเรื่องนี้จากพ่อแม่หรือจากโรงเรียน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ในสังคมไทยไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะไหน คุณก็ต้องวางแผนครับ ถ้าคุณอยู่ในฐานะแบบใช้จ่ายเดือนชนเดือน มีหนี้อีกเยอะต้องจัดการ คุณต้องรีบออกจากวังวนนั้นให้เร็วที่สุด ถ้าคุณเป็นพวกมีเงินเหลือเก็บ คุณยิ่งต้องตรวจสอบครับว่า สิ่งที่คุณทำอยู่นั้น ช่วยให้เป้าหมายคุณเป็นจริงหรือไม่ และถ้าคุณมีเงินเหลือกินเหลือใช้ คุณยิ่งต้องวางแผนเลยครับว่าจะทำอย่างไรให้ความมั่งคั่งนี้อยู่กับคุณตลอดไปนอกจากนี้ยังมีอีกหลายเหตุผลครับ

1.ความไม่แน่นอนของชีวิต เพราะชีวิตคือชีวิต เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกไป เอ้อ ไม่ใช่ละ เพราะชีวิตคือความไม่แน่นอน บางครั้งสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นได้ ใครจะคิดว่าปี 2553 จะมีจลาจลกลางเมือง ปี 2554 น้ำจะท่วมใหญ่ และอีกหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา บางเหตุการณ์อาจเป็นอุปสรรคเล็กๆ ในชีวิต แต่บางเหตุการณ์อาจเป็นอุปสรรคใหญ่ ที่ทำให้เรารับมือได้ยากดังนั้นการมีเงินสดฉุกเฉิน (Emergency Fund) และการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) จึงมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น

A_Black_and_White_Retro_Style_Cartoon_Man_Lieing_Face_Down_with_an_Axe_In_His_Back_Royalty_Free_Clipart_Picture_101115-133643-882053

2.โครงสร้างทางสังคมเปลี่ยนแปลงไป เดิมไทยเป็นครอบครัวขยาย พี่ ป้า น้า อา ปู่ ย่า ตา ยาย อาศัยอยู่ด้วยกัน หรือใกล้ๆ กัน สามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้ง่าย คนยุคก่อนมีลูกเยอะ 8 คน 10 คน ตอนแก่ก็ไม่ต้องกังวล เพราะจะมีลูกๆ มาช่วยดูแลเขาได้ แต่ปัจจุบันคนสมัยใหม่แต่งงานช้าลง มีลูกน้อยลง หรือบางทีไม่มีเลย เป็นโสดอีกต่างหาก ดังนั้นในอีก 20 ปีข้างหน้า สังคมไทยจะกลายเป็น “สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society)” เหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว ดังนั้นภาระดูแลผู้สูงวัยเหล่านี้ รัฐคงไม่สามารถช่วยดูแลได้ จะหวังพึ่งลูกก็ไม่มีลูก หรือมีลูกน้อยเกินไป จนไม่สามารถพึ่งได้ คนเหล่านี้จำเป็นต้องพึ่งตัวเองเป็นหลักครับ ดังนั้นการวางแผนเกษียณ (Retirement Planning) จะมีความจำเป็นมากขึ้น สำหรับคนยุคปัจจุบัน

795163-topic-ix-0

3.การมีลูกน้อยลงของคนยุคใหม่ ทำให้คนยุคใหม่ใส่ใจกับความสำคัญของลูกมากขึ้น ต้องหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกๆ โดยเฉพาะการศึกษา จะเห็นได้ว่าเด็กยุคใหม่ส่วนใหญ่เรียน bilingual มากขึ้น นอกจากเรียนในโรงเรียนแล้ว พ่อแม่ยังให้ไปเรียนพิเศษ เรียนดนตรี กีฬา อีกต่างหาก ดังนั้นการวางแผนการศึกษาให้กับลูก (Education Fund) จึงมีความสำคัญมากขึ้นเช่นกันครับ

shutterstock_japan

 

4.โครงสร้างดอกเบี้ยเปลี่ยนแปลงไป สมัยเราเป็นเด็กๆ เราทุกคนคงถูกสอนให้ออมเงินและนำเงินออมไปฝากธนาคารใช่ไหมครับ มันถูกต้องเลยครับ เพราะการฝากเงินที่ธนาคารในสมัยก่อน เป็นตัวเลือกแทบจะตัวเลือกเดียวที่คนทั่วไปทำได้ เพราะยุคนั้นไม่มีสินค้าทางการเงินให้เลือกมากนัก และดอกเบี้ยในธนาคารก็เยอะมาก น้องๆ หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารของไทยเราเคยมากกว่า 10% ซึ่งมันเป็นเรื่องจริงในอดีต แล้วมาดูตอนนี้สิครับ อัตราดอกเบี้ยในธนาคารปัจจุบัน ถ้าฝากออมทรัพย์ ก็ 0.75% ฝากประจำก็ 2% กว่าๆ ดังนั้นการฝากเงินในธนาคารอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีนักเหมือนในอดีต ดอกเบี้ยทบต้น 10% จะทำให้เงินต้น 100 บาท กลายเป็น 200 บาท ในเวลา 7.2 ปี แต่ถ้าดอกเบี้ย 2% จะต้องใช้เวลาถึง 36 ปี คงเห็นแล้วใช่ไหมครับว่าเราคงอาศัยการฝากเงินในธนาคารอย่างเดียวไม่ได้แล้ว

images

5.สินค้าทางการเงินซับซ้อนมากยิ่งขิึ้น สินค้าการเงินในตลาดปัจจุบันมีความหลากหลายมากขึ้น แค่กองทุนรวมก็มีเยอะจนเลือกไม่หวาดไม่ไหว ตราสารทุน ตราสารหนี้ ทองคำ น้ำมัน อสังหาริมทรัพย์ เอาแค่กองทุนรวม เพื่อลดหย่อนภาษี ได่แก่ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ( RMF) ที่หลายคนต้องซื้อไว้ลดหย่อนภาษี เชื่อไหมครับที่หลายๆคนเลือกซื้อกองทุนเพราะมันสะดวก ใกล้ที่ทำงาน ใกล้บ้าน หรือซื้อตามเพื่อนโดยไม่รู้ว่าแต่ละกองนั้นทำงานแตกต่างอย่างไรในด้านนโยบาลการลงทุนผลประกอบการหรือความเสี่ยง แล้วกองไหนครับที่เหมาะสมกับเรา เหมาะสมกับเป้าหมายเรามากที่สุด

Image

6.ค่าครองชีพทีสูงขึ้น ผมกำลังพูดถึงเงินเฟ้อ เงินเฟ้อทำให้เราต้องจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อซื้อสินค้าเท่าเดิม นอกจากนี้เงินเฟ้อยังเป็นศัตรูตัวร้ายของความมั่งคั่งที่เรามี เชื่อไหมครับ ถ้าเรามีเงิน 100,000,000 บาท ด้วยเงินเฟ้อ 4% เงินเราจะด้อยค่าลงครึ่งนึงในเวลา 18 ปี พูดง่ายๆคือ เงิน 100 ล้านบาทในวันนี้จะเหลือค่าแค่ 50 ล้านบาทใน 18 ปีข้างหน้าและเหลือแค่ 25ล้านบาทใน 36 ปีข้างหน้า เห็นไหมครับเงินเฟ้อกัดกร่อนความมั่งคั่งของเราไปมากขนาดไหน ดังนั้นการวางแผนการลงทุน ( Investment planning) จึงจำเป็นเพื่อรักษาความมั่งคั่งของเราไม่ให้ลดลงไปมากยิ่งขึ้น

news_img_371873_1

7.เทคโนโลยีทางด้านการแพทย์ที่ดีขึ้น สมัยก่อนคนเราอายุสั้นเพราะเครื่องมือทางการแพทย์ยังไม่ทันสมัย แต่สมัยนี้วิวัฒนาการทางการแพทย์ดีขึ้นมาก โรคร้ายแรงในอดีต ปัจจุบันแพทย์สามารถรักษาได้ โรคเดิมที่เคยรักษาได้อยู่แล้ว ปัจจุบันก็สามารถรักษาได้ดีขึ้น เช่นการผ่าตัดในช่องท้อง ปัจจุบันใช้กล้องและอุปกรณ์ประเภท minimal invasive มาผ่าตัดทำให้แผลเล็ก เจ็บน้อย คนไข้ไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่สิ่งที่ตามมา ค่ารักษาที่แพงขึ้นมาก ย้ำ ว่ามว้ากกกกกกกกกก!!! เชื่อไหมครับค่าผ่าไส้ติ่ง ค่ารักษาเกินแสนบาท โอ้ว..อะไรจะแพงขนาดนั้นน..   สมัยก่อนการผ่าตัดเนื้องอกที่สมองต้องเปิดกระโหลก สมัยนี้ใช้ Gramma Knife ผ่าตัดได้โดยไม่ต้องเปิดกระโหลก ทำให้คนไข้ไม่บอบซ้ำ และแน่นอนครับค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ถ้าเราเลือกระหว่าง 30 บาทรักษาทุกโรค ประกันสังคม หรือโรงพยาบาลเอกชนระดับ5ดาว เราอยากใช้บริการอย่างหลังมากกว่าใช่ไหมครับ ดังนั้นการวางแผนเรื่องประกันสุขภาพจึงมีความจำเป็นมากยิ่งขึ้น

untitled12

8.ความมั่งคั่งของคนในสังคมมากขึ้น ปัญหาของคนไม่มี คือ ไม่มีสมบัติให้ลูกหลาน ปัญหาของคนมี คือ จะแบ่งยังไงให้ลูกหลานไม่ทะเลาะกัน เห็นไหมครับว่าคนรวยใช่ว่าจะไม่มีปัญหา แต่ปัญหามันต่างกันเท่านั้นเอง สมัยก่อนความมั่งคั่งมีอยู่แต่กับชนชั้นสูง ดังนั้นการส่งมอบมรดกเป็นเรื่องของคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่ปัจจุบันคนไทยเริ่มมีชนชั้นกลางมากขึ้น พูดง่ายๆคนไทยมีคนรวยมากขึ้นกว่าในอดีต ดังนั้นการจัดการส่งมอบมรดกให้ทายาทจึงมีความสำคัญมากขึ้น การวางแผนมรดก(Estate Planning)จะเข้ามาช่วยจัดการความมั่งคั่งของเรา ถูกส่งต่อให้เหมาะสมและลดปัญหาเหล่านี้ได้

farmer2

 

ถึงตรงนี้หลายๆคนคงเห็นความสำคัญของการวางแผนการเงินกันบ้างแล้วล่ะ ใครอยากเริ่มต้นวางแผนการเงิน ยกมือขึ้นนนนน!!! 

เครดิต: วรพจน์ เกตุอร่าม CFP: สมาคมนักวางแผนการเงินไทย

You may also like...