ประกันชีวิตควบการลงทุน ทางเลือกใหม่ของคนชอบลงทุน

หากในวันนี้ เราเป็นคนหนึ่งที่วางแผนในอนาคตไว้อย่างดี มีเป้าหมายทางการเงินที่แน่ชัด ว่าจะออมเงิน และลงทุน ให้งอกเงย เพื่อในวันข้างหน้า จะเกษียณได้อย่างร่ำรวย หรือแม้แต่เก็บเงินเพื่อส่งเสียลูกน้อยในอนาคต ให้ได้มีการศึกษาที่ดีอย่างที่ได้ตั้งใจไว้ ก็ถือได้ว่าเราเป็นคนที่รอบคอบ รู้จักวางแผนแต่เนิ่นๆ

ถ้าเราสามารถทำได้ตามแผน แน่นอนว่าเราก็คงสามารถถึงเส้นชัยได้ ตามที่ตั้งใจไว้ …

แต่หากในระหว่างทาง เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดซะก่อน ภาพฝันที่วาดไว้ก็คงไม่เกิดขึ้น ทิ้งให้คนข้างหลังต้องเผชิญสิ่งที่ไม่อาจคาดเดา

ตรงนี้แหละ  ที่ประกันชีวิต จะเข้ามาช่วยเติมเต็มแผนการเงินของเราให้มีความมั่นคงเข็มแข็งมากขึ้น

เพราะไม่ว่าเหรียญจะออกมาด้านไหนก็ตาม จะหัวหรือก้อย ผลลัพธ์สุดท้าย ก็จะยังเหมือนเดิม

ในวันนี้ ประกันชีวิตได้เปลี่ยนไปมากพอสมควร เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งคนส่วนใหญ่ ให้ความสำคัญในการวางแผนการเงิน และลงทุนมากขึ้น เพื่อให้เงินงอกเงยได้เร็วกว่าการฝากธนาคารแบบเดิมๆ

ดังนั้น สินค้าตัวใหม่จึงได้ถูกคิดค้นขึ้น เป็นการนำประกันชีวิต ผนวกเข้ากับการลงทุนในกองทุนรวม เป็น one stop service ซื้อทีเดียว ได้ทั้งประกันชีวิต ได้ทั้งการลงทุนไปในตัว เรียกสั้นๆว่า Unit Linked

ถ้าจะพูดให้ง่ายๆ ก็คือ ในระหว่างที่เราเก็บเงิน และลงทุน เพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้นั้น สมมติว่าเป้าหมายคือ 10 ล้านบาท หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น บริษัทประกัน ก็จะจ่ายเงินให้กับครอบครัวของเรา ตามเป้าหมายการเก็บเงินที่วางไว้ คือ 10 ล้าน แต่หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น เงินของเราก็จะค่อยๆงอกเงย จนถึงเป้าหมาย 10 ล้านได้ในที่สุด

จุดเด่นของประกันชีวิตควบการลงทุนนี้ คือการได้ทุนคุ้มครองที่สูงมาก เมื่อเทียบกับประกันออมทรัพย์แบบเดิมๆ สมมุติว่า ประกันออมทรัพย์แบบเก่า จะทำทุนประกัน 10 ล้าน อาจจะต้องจ่ายเบี้ยประกันถึง 1 ล้านต่อปี

แต่ถ้าเป็นประกันชีวิตควบการลงทุน ถ้าจะทำทุนประกัน 10 ล้าน เราจะจ่ายเบี้ยเพียง 1 – 2 แสน ต่อปีเท่านั้น และยังเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงในระยะยาว จากการลงทุนในกองทุนอีกด้วย ซึ่งกองทุนเหล่านี้ มีผู้จัดการกองทุนมาคอยบริหารเงินให้เรา ไม่ต้องปวดหัวจัดพอร์ตการลงทุนให้ยุ่งยาก

ประกันออมทรัพย์นั้น ผลตอบแทนเฉลี่ยเทียบกับเงินลงทุน (หรือเรียกว่า IRR) จะอยู่ที่ 1 – 2% เท่านั้น

ในขณะที่ Unit Linked นั้น IRR อาจสูงมากกว่า 6% เลยทีเดียว (ในระยะยาว เกิน 10 ปีขึ้นไป ซึ่งประกันส่วนใหญ่ ระยะเวลาก็เกิน 10 ปีอยู่แล้ว) ยิ่งหากกองทุนไหนทำผลงานได้ดี ผลตอบแทนจะยิ่งสูงตาม

เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียว ได้นกหลายตัว

มั่นคง และมั่งคั่ง ด้วยประกันชีวิตควบการลงทุน

ว่าแต่วันนี้ เราวางแผนเก็บเงินให้ได้เท่าไหร่ แล้วเรามีทุนประกัน เท่ากับเป้าหมายของเราแล้วรึยัง ?