เราจะเลือกประกันสุขภาพยังไงดี ??

ประกันสุขภาพ คืออะไร

ประกันสุขภาพ เป็นสัญญาเพิ่มเติมที่มีอายุความคุ้มครอง 1 ปี สามารถต่ออายุความคุ้มครองเมื่อครบปีกรมธรรม์
ในกรมธรรม์ประกันชีวิตประกันสุขภาพจะเป็นสัญญาเพิ่มเติมที่แนบอยู่กับกรมธรรม์หลัก และไม่มีเงินคืนใดๆ สำหรับประกันสุขภาพ ผลประโยชน์มีเพียงสินไหมที่จะจ่ายให้เมื่อเกิดเจ็บป่วย หรือ อุบัติเหตุ (ต้องตรวจสอบเงื่อนไขความคุ้มครองในสัญญา)

ดังนั้น ความคุ้มค่า ไม่ขึ้นกับระยะเวลา (ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นสัญญาปีต่อปี)
หากสมัครทำประกันไประยะหนึ่งแล้ว ไม่ต้องการความคุ้มครองประกันสุขภาพอีกต่อไป ก็สามารถแจ้งบริษัทเพื่อทำการยกเลิกสัญญาเพิ่มเติมดังกล่าวได้ โดยทั่วไปบริษัทประกันชีวิตจะยกเลิกสัญญาเพิ่มเติมที่ขอยกเลิกในงวดถัดไป
ขอเรียนว่า ควรพิจารณาให้แน่ใจว่าไม่ต้องการความคุ้มครองแล้ว เพราะหากโอกาสข้างหน้าอยากทำประกันสุขภาพใหม่อีก บริษัทที่รับประกันก็จะพิจารณาตามสภาวะสุขภาพในขณะนั้น ซึ่งอาจแตกต่างจากในปัจจุบัน
มักจะมีหลายๆท่าน..มีคำถามว่า แล้วเราจะเลือกซื้อประกันสุขภาพยังไงดีล่ะ??
วันนี้เรามีคำแนะนำง่ายๆในการที่จะตัดสินใจทำประกันสุขภาพ ที่เหมาะสมตามแต่ละบุคคลได้เป็นอย่างดี
อย่างแรก .. ต้องมาดู ว่าสัญญาสุขภาพเพิ่มเติมนี้มีอะไรบ้าง
– สัญญาค่ารักษาพยาบาล ( ค่าห้อง + ค่ารักษา )
– โรคร้ายแรงต่อเนื่อง
– โรคมะเร็ง
– ชดเชยรายได้
– อุบัติเหตุ
– ทุพพลภาพ
ค่ารักษาพยาบาล
เรามาดูกันทีละอย่าง ว่าสัญญาเพิ่มเติมแต่ละตัวต้องพิจารณา ในการเลือกใช้อย่างไร 
เริ่มที่สัญญาสุขภาพ ค่ารักษาพยาบาล ในปัจจุบัน คนไทยส่วนใหญ่เริ่มให้ความสำคัญกับประกันสุขภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยทั้งปัจจัยที่ค่ารักษาพยาบาลในปัจจุบันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในบริการของภาครัฐ ผู้ป่วยมีจำนวนมากขึ้นทำให้การบริการไม่ทั่วถึง จึงเป็นเหตุให้คนไทยส่วนใหญ่ตระหนักถึงปัญหานี้และเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงมากขึ้น
สัญญาเพิ่มเติมค่ารักษาพยาบาลในปัจจุบัน มีทั้งแบบกำหนดค่าใช้จ่ายว่าแต่ละหมวด ใช้ได้สูงสุดเท่าไหร่ในแต่ละครั้ง และแบบล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานมานี้คือ แบบเหมาจ่าย โดยกำหนดว่า แต่ละแผนนั้นจะมีความคุ้มครองสูงสุดกี่บาทใน 1 ปี
การทำงานของทั้งสองแตกต่างกันอย่างไร
แบบแรก จะทำงานตามหมวดหมู่ที่บริษัทประกันกำหนดมาแล้ว เช่นค่าห้อง+ค่าอาหาร 3400 บาท , ค่ารักษาพยาบาล สูงสุด 20000 บาทต่อโรค , ค่าผ่าตัด 60000 บาท เป็นต้น ซึ่งการจำกัดค่าใช้จ่ายต่างๆนี้มาแล้ว อาจทำให้ผู้ทำประกันต้องจ่ายส่วนต่างบางอย่างอีกครั้งนึง
แบบเหมาจ่าย จะออกแบบมาเป็นความคุ้มครองทั้งปี โดยกำหนดวงเงินมาในแผนที่ซื้อนั้น เช่น แผน 1 ล้าน ก็จะสามารถใช้วงเงิน 1 ล้านนี้ทั้งปีที่มีความคุ้มครองอยู่  ซี่งจะทำให้ผู้ทำประกันไม่ต้องกังวลถึงงบที่กำหนดในแต่ละหมวดหมู่ เหมือนแบบแรก แต่ข้อแตกต่างที่ชัดเจนอีกอย่างหนึ่งคือ ค่าเบี้ยประกันแบบเหมาจ่ายจะมีราคาสูงกว่าแบบปกติ
(รายละเอียดต่างๆที่เหลือ โปรดศึกษาก่อนตัดสินใจทำประกัน)
642111786238
คราวนี้พอจะรู้คร่าวๆว่าประกันค่ารักษาพยาบาลในปัจจุบันมี 2 แบบ เราก็จะมาดูว่าแล้ววิธีการเลือกให้เหมาะสมกับตนเองเป็นยังไง
อย่างแรก ถ้าสนใจทำประกันสุขภาพค่ารักษาพยาบาล ต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับ
โรงพยาบาลที่ผู้ทำประกันเลือกใช้ ว่า รพ.นั้น มีค่าห้องโดยเฉลี่ยแล้วประมาณเท่าไหร่ และ ค่าใช้จ่ายต่างๆอุปกรณ์การแพทย์ ค่าบริการต่างๆ     ประมาณเท่าไหร่
– งบประมาณในการทำประกัน
เมื่อหาข้อมูลเพียงพอแล้ว ก็นำมาประกอบการตัดสินใจในการที่จะเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับตนเอง ขอยกตัวอย่างเช่น
รพ.แถวบ้านผู้เขียน ค่าห้องรวมค่าอาหาร ประมาณ 3,500 บาทต่อคืน ผู้เขียนก็จะเลือกค่าห้องที่มีตามแผนของประกันคือ 3400 หรือ 4000 ต่อคืนก็ได้ ถ้าเลือก3400 ผู้เขียนก็ต้องจ่ายส่วนต่างที่เกินมาเอง ส่วนรายละเอียดเรื่องค่ารักษา ผู้เขียนจะพิจารณาว่า ถ้างบประมาณที่สามารถทำประกันได้เท่าไหร่ ก็จะเลือกแผนที่ตอบโจทย์กับงบประมาณที่มีอยู่ได้ ซึ่งบางคนอาจบอกว่า อย่างนั้นถ้ามีส่วนเกินที่ต้องจ่ายเองมากก็อาจทำให้เกิดปัญหา ดังนั้น ผู้ที่ทำประกันค่าใช้จ่าย แบบที่อาจต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่ม จึงจำเป็นต้องมีเงินสำรองบางส่วนในเรื่องนี้ไว้ให้พร้อมด้วย
ประกันสามารถช่วยลดความเสียหายได้ แต่ไม่สามารถควบคุมความเสียหายให้หมดไปได้
สรุป หลักในการเลือกทำสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ คือ รพ.ที่จะเข้ารับบริการ เพื่อประเมินว่าค่าใช้จ่ายแต่ละอย่างอยู่ในระดับไหน และงบประมาณของผู้ที่จะทำประกัน ว่าสามารถ ทำประกันเพื่อลดความเสียหายไห้เหลือน้อยที่สุดในแบบใด
951_5_2
สำหรับสัญญาเพิ่มเติมค่ารักษาพยาบาล เป็นสัญญาที่อ้างอิงถึง ความเสี่ยงในการที่จะเจ็บป่วย แปรตรงกับ เบี้ยประกันที่ต้องจ่าย เช่น
– เพศชาย เบียประกันจะถูกกว่าเพศหญิง เพราะ เพศหญิงมีอวัยวะที่ซับซ้อนกว่าเพศชาย จึงทำให้มีความเสี่ยงในการเจ็บป่วยมากกว่า
– เด็ก + คนแก่ จะมีเบี้ยประกันที่สูงกว่า คนวัยหนุ่มสาว เพราะร่างกายยังมีภูมิคุ้มกันที่น้อย โอกาสเจ็บป่วยก็มากกว่าคนวัยหนุ่มสาว
เพราะฉนั้น ถ้า คนที่มีอายุมากขึ้น เบี้ยประกันก็จะเพิ่มขึ้น เพราะโอกาสที่จะเจ็บป่วยมีมากกว่า
images (2)

มีคนเคยบอกไว้ว่า ” หมอรักษาเราด้วยยา แต่ฆ่าเราด้วยใบเสร็จ “ เป็นคำที่ช่างเข้ากับปัจจุบันเสียนี่กระไร

ถ้าอ่านแล้วยังมีข้อสงสัย ส่งคำถามมาที่ molwan_gift@hotmail.com ผู้เขียนจะตอบข้อสงสัยให้

You may also like...